1. แคคตัส Succulent กุหลาบหิน(แม่พันธุ์100%)
ใครได้ต้นนี้ไปนับว่าเป็นผู้โชคดีมากเลยผมรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับครับ ต้นที่ผมลงขายผู้ดูแลอย่างดีหมดอาจจะมีบางต้นก็อาจจะมีผิดรูปผิดธรรมชาติไปบ้างคนเลี้ยงกันน่าจะดข้าใจกันแหละนะครับ และผมก็ฝากดูแลน้องต่อจากผมด้วยละกันนะครับ ขอบคุณมากๆเลยครับ ช่วยกันอุดหนุนกันเยอะๆนะครับ แคคตัสเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่หายากและมีราคาค่อนข้างสูง ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนปลูกเลี้ยงและขยายพันธุ์ต้นกระบองเพชรสายพันธุ์นี้ เนื่องจากว่าเป็นสายพันธุ์ที่ทนต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้งได้ดี ในลําต้นมีคลอโรฟิลด์ที่ช่วยในการสังเคราะห์แสงน้อย ส่งผลให้ลําต้นมีสีสันที่แตกต่างจากต้นกระบองเพชรยิมโนสีเขียว รวมทั้งการเจริญเติบโตของต้นกระบองเพชรสายพันธุ์นี้จะช้ากว่าต้นกระบองเพชรทั่วไปรวมทั้งวิธีการปลูกเลี้ยง การดูแลรักษาต้นกระบองเพชรยิมโนด่างก็จะแตกต่างกันไปด้วย อย่างเช่น ต้นกระบองเพชรยิมโนด่างต้องการนําในปริมาณที่มากกว่าต้นกระบองเพชรตระกูลอื่น แสงแดด ต้องการแสงแดดทั้งวัน หรืออย่างน้อยๆ ครึ่งวันเช้า ไม่ควรรับแดดโดยตรงเพราะจะทําให้ผิวเป็นแผลหรือมีรอยไหม้ ซึ่งจะทําให้ไม้ไม่สวย ดังนั้นควรจะเลี้ยงไว้ในโรงเรือน ที่ๆ โดนแดดแบบรําไร หรือจะใช้สแลน 60% เพื่อกรองความเข้มของแสงแดดจะดีที่สุด การรดน้ํา ควรจะรดนํา้ ก็ต่อเมื่อดินแห้ง โดยวิธีการสังเกตุว่าดินแห้งไหม หากเลี้ยงไม้ไม่มากก็ใช้วิธีการนําไม้จิ้มฟันหรือไม้ลูกชิ้นจิ้มลงไปในดินแล้วดึงขึ้นมาดูว่ามีเศษดินติดขึ้นมาไหม หากมีแปลว่าดินยังชื้นก็ยังไม่ต้องรด แต่หากไม่มีดินติดขึ้นมาแปลว่าถึงเวลารดน้ํา ในการรดน้ํามีมือใหม่หลายท่านที่เข้าใจผิดใช้ฟอกกี้ (กระบอกฉีดน้ํา) ฉีดเข้าไปที่ลําต้น เพราะคิดว่าแคคตัสต้องการน้ําน้อย เป็นความเข้าใจที่ผิด ในความเป็นจริงแล้วแคคตัสต้องการน้ําปริมาณที่เหมาะสม ดังนั้นต้องรดให้น้ําไหลทะลุก้นกระถางเพื่อให้รากได้รับน้ําอย่างเพียงพอ เพื่อนําไปใช้ในการเจริญเติบโตต่อไปครับ ดินที่ปลูก ดินที่ใช้ปลูกก็เป็นปัจจัยสําคัญในการเลี้ยงแคคตัสทุกสายพันธุ์ สําหรับ “แคคตัส นั้นต้องการดินที่มีสารอาหารเพียงพอ ระบายน้ําได้ดีและดินต้องไม่แน่นเกินไป จนทําให้รากของต้นไม้ไม่สามารถขยายลงไปก้นกระถางได้ ดังนั้นวัสดุปลูกต้องต้องโปร่ง โดยส่วนใหญ่ที่คนปลูกจะนิยมใช้กันคือ รองก้นกระถางด้วย หินภูเขาไฟ/ถ่านหุงต้มที่ทุบให้เล็กๆ ดินแคคตัสที่มีส่วนผสมหินภูเขาไฟขนาดเล็ก, ดินใบกล้ามปู, เพอร์ไรท์, ทรายหยาบ, ปุ๋ยออสโมโค้ท และสตาร์เกิลจี โดยสัดส่วนและสูตรดินนั้นสามารถปรับเปลี่ยนไปตามการเลี้ยงของแต่ละคนได้ วัสดุก็สามารถปรับเปลี่ยนตามของที่หาได้ในแต่ละพื้นที่ด้วย แต่ไม่ว่าจะใช้สูตรไหนก็ขอให้ดินระบายน้ําได้ดีไว้ก่อน จะได้ไม่อุ้มน้ํามากจนเกินไป การเพาะเมล็ดแคคตัส (อาจขึ้นอยู่กับชนิดของเมล็ดแต่ละสายพันธุ์ และความพึงพอใจของผู้เพาะ ที่จะเลือกใช้วิธีการอื่นๆ) 1 เตรียมเมล็ดพันธุ์ ดินเพาะ (ดินปลูกแคคตัส) ภาชนะเพาะหรือกระถางเพาะ ควรระบายน้ําได้ดี 2 นําภาชนะเพาะที่ใส่ดินเพาะแล้วไปแช่น้ําให้มีความชุ่มชื้นเต็มที่ 3 เพื่อเร่งการงอกของเมล็ด แนะนําให้ใช้กรรไกรตัดเล็บ (หรือคืมตัด เล็กและคม) ขลิบที่ปลายเมล็ด พอให้น้ําซึมเข้าไปข้างในได้ (ขึ้นตอนนี้ไม่ต้องทําก็ได้ หากไม่รีบ อยากเห็นการงอกเร็วๆ) 4 โรยเมล็ดลงบนหน้าดิน และนําภาชนะเพาะหรือกระถางใส่ลงถุงพลาสติกใส มัดปิดปากถุงให้แน่น มิให้ไอน้ําระเหยออกมาได้ 5 นําไปตั้งไว้ในที่ร่มรําไร หรือแดดอ่อนๆ